2. เมล็ดพริกจินดาแดง 100 เมล็ด ยอดนิยม 10 เเถม 1 คละได้]
พริกที่เผ็ดที่สุดในโลก:
การปรับการบดแบบปรับได้: หมุนปุ่มด้านบนเพื่อปรับความหยาบจากตามเข็มนาฬิกาเพื่อบดละเอียด
เมล็ดพันธุ์พริกจินดา:
การปรับการบดแบบคลาสสิก: หมุนปุ่มด้านบนให้แน่นขึ้น (ตามเข็มนาฬิกา) เพื่อบดละเอียดขึ้นหลวม (ทวนเข็มนาฬิกา) สําหรับหยาบบนด้าม
เมล็ดพริกแดงจินดา:
การปรับการบดแบบคลาสสิก: หมุนปุ่มด้านบนให้แน่นขึ้น (ตามเข็มนาฬิกา) เพื่อบดละเอียด
พันธุ์พริกจินดา:
การปรับการบดแบบคลาสสิก: หมุนปุ่มด้านบนให้แน่นขึ้น (ตามเข็มนาฬิกา) เพื่อบดละเอียดขึ้นหลวม (ทวนเข็มนาฬิกา) สําหรับหยาบบดด้ามจับที่ปลอดภัยและสะดวกสบาย
พริกเหลืองอินโด:
การปรับการบดแบบคลาสสิก: หมุนปุ่มด้านบนให้แน่นขึ้น (ตามเข็มนาฬิกา) เพื่อบดละเอียดขึ้นหลวม (ทวนเข็มนาฬิกา) สําหรับหยาบบดด้ามจับที่ปลอดภัยและสะดวกสบายช่วยให้ได้ผลลัพธ์สูง การปลูกพริกจินดาปลอดสารพิษ ให้มีคุณภาพดี ผลผลิตสูง ควรทําดังนี้
การเตรียมดิน: การเตรียมแปลงดินปลูก ให้ทําการไถตากดินทิ้งไว้ประมาณ 10 วัน จากนั้นใช้ปุ๋ยคอกวัวโรยไว้ให้ทั่วพื้นที่ แล้วทําการไถกลบ จากนั้นเมื่อฝนตกก็ทําการไถแปรดินไว้ ส่วนการเตรียมดินปลูกในเขตพื้นที่อาศัยน้ําฝน ต้องเลือกพื้นที่ ที่สามารถระบายน้ําได้ดี
การเตรียมเมล็ดพันธุ์และการเพาะกล้า: ก่อนเพาะกล้า ควรนําเมล็ดพันธุ์แช่น้ําไว้ 1 คืน แล้วใช้ผ้าขาวบางห่อเมล็ดเก็บไว้ในที่ชุ่มชื้น 2-3 วัน จึงนําไปเพาะในแปลงหรือกระบะเพาะต่อไป เมื่อต้นกล้าพริกอายุ 30 วัน หรือมีใบจริงประมาณ 5 ใบ ให้ย้ายกล้าพริกลงแปลงปลูกที่เตรียมไว้โดยใช้ระยะการปลูก ดังนี้
การปลูก: ระยะการปลูกพริก ระหว่างแถวห่างกัน 70 เซนติเมตร ระยะห่างระหว่างต้น 50 เซนติเมตร แล้วทําการวางระยะลงปลูกได้เลย แต่ละจุดให้นําไม้เสียบลง 1 หลุมต่อกล้าพริก 3 ต้น
การดูแล: การให้น้ํา พริกเป็นพืชที่ต้องการน้ําอย่างเพียงพอและสม่ําเสมอในช่วงแรกของการเจริญเติบโต ซึ่งดินควรมีความชุ่มชื้นพอดีอย่าให้เปียกหรือแฉะเกินไป เพราะจะทําให้ต้นพริกเหี่ยวตายได้ ในช่วงเก็บเกี่ยวผลผลิตควรลดการให้น้ํา เพื่อพริกจะได้มีคุณภาพที่ดี ผลผลิตงาม และสีของผลก็จะสวยส่วนกรณีดินแห้งเกินไป และไม่อาจให้น้ําได้ก็ควรใช้วัสดุคลุมดิน เช่น ฟางข้าว เปลือกถั่ว เพื่อให้ดินมีความชุ่มชื้น
การใส่ปุ๋ย: พริกเป็นพืชที่มีอายุการเก็บเกี่ยวผลค่อนข้างยาวนาน ปุ๋ยที่ใช้ควรเป็นปุ๋ยที่มีธาตุอาหารครบ เช่น ปุ๋ยสูตร 15-15-15 ควรใส่ในอัตรา 25-50 กิโลกรัมต่อไร่ เพื่อเป็นการช่วยเสริมการเจริญเติบโตของพริก นอกจากนี้ควรฉีดพ่นน้ําหมักทางใบในแปลงพริกบ้าง เพื่อป้องกันแมลง หนอน และเพลี้ย โดยใช้สูตรน้ําหมักป้องกันศัตรูพริก คือ ใช้ใบสะเดา 1 กิโลกรัม ผสมกับน้ํา 1 ลิตรแล้วทําการขยี้ใบสะเดา และแช่ทิ้งไว้ 1 คืน ก็สามารถนําไปใช้ได้ โดยกรองเอาน้ําหมักสะเดาในอัตราการ 1 ช้อนโต๊ะ ผสมน้ํา 20 ลิตร นําไปฉีดพ่นแปลงพริก ในช่วงเวลาเย็น
การเก็บเกี่ยว: พริกจะออกดอกหลังจากย้ายปลูกแล้วประมาณ 60-70 วัน และจะเริ่มเก็บเกี่ยวผลสุกได้เมื่อพริกมีอายุประมาณ 90-100 วัน ซึ่งจะสามารถเก็บเกี่ยวได้อีกทุก ๆ 5-7 วันหรือเดือนละ 5-6 รุ่นถ้ามีการบํารุงรักษาดีและให้น้ําอย่างเพียงพอ สินค้าส่งจาก จ สุโขทัย) 1 ส่งลงทะเบียน ไปรษณีย์ไทย 5-7 วัน 2 ส่ง EMS ไปรษณีย์ไทย 1-2 วัน 3 ส่งด่วนเคอรี่ เก็บเงินปลายทาง 2-3 วัน ร้านหยุดเสาร์-อาทิตย์ นักขัตฤกษ์ จัดส่ง จันทร์-ศุกร์ ตัดรอบ 5 โมงเย็น สั่งก่อน 5 โมงเย็นจัดส่งวันถัดไป สั่งหลัง 5 โมงเย็นจัดส่งอีก 2 วันถัดไป สั่งวันศุกร์หลัง 5 โมงเย็นจัดส่งวันจันทร์ ร้านตามสินค้าให้เฉพาะกรณีขนส่งมีปัญหาเท่านั้น กรณีบ้านปิดไม่มีผู้รับ เป็นความรับผิดชอบของลูกค้ากรุณาติดต่อรับของที่ไปรษณีย์ปลายทางค่ะ เมล็ด 10 แถม 1 เมล็ดผัก เมล็ดพันธ์ผัก เม็ดผัก เม็ดพันธ์ผัก เม็ดพันธ์ผัก เมล็ดคะน้าฮ่องกง ผักขี้หูด แคนตาลูปซันเลดี้ พีชมอส มะละกอฮอลแลนด์ เมล็ดแตงไทย เมล็ดแคนตาลูป เมล็ดเมล่อน เมล็ดพริกจินดา การปลูกพริกจินดาปลอดสารพิษ ให้มีคุณภาพดี ผลผลิตสูง ควรทําดังนี้
การเตรียมดิน: การเตรียมแปลงดินปลูก ให้ทําการไถตากดินทิ้งไว้ประมาณ 10 วัน จากนั้นใช้ปุ๋ยคอกวัวโรยไว้ให้ทั่วพื้นที่ แล้วทําการไถกลบ จากนั้นเมื่อฝนตกก็ทําการไถแปรดินไว้ ส่วนการเตรียมดินปลูกในเขตพื้นที่อาศัยน้ําฝน ต้องเลือกพื้นที่ ที่สามารถระบายน้ําได้ดี
การเตรียมเมล็ดพันธุ์และการเพาะกล้า: ก่อนเพาะกล้า ควรนําเมล็ดพันธุ์แช่น้ําไว้ 1 คืน แล้วใช้ผ้าขาวบางห่อเมล็ดเก็บไว้ในที่ชุ่มชื้น 2-3 วัน จึงนําไปเพาะในแปลงหรือกระบะเพาะต่อไป เมื่อต้นกล้าพริกอายุ 30 วัน หรือมีใบจริงประมาณ 5 ใบ ให้ย้ายกล้าพริกลงแปลงปลูกที่เตรียมไว้โดยใช้ระยะการปลูก ดังนี้
การปลูก: ระยะการปลูกพริก ระหว่างแถวห่างกัน 70 เซนติเมตร ระยะห่างระหว่างต้น 50 เซนติเมตร แล้วทําการวางระยะลงปลูกได้เลย แต่ละจุดให้นําไม้เสียบลง 1 หลุมต่อกล้าพริก 3 ต้น
การดูแล: การให้น้ํา พริกเป็นพืชที่ต้องการน้ําอย่างเพียงพอและสม่ําเสมอในช่วงแรกของการเจริญเติบโต ซึ่งดินควรมีความชุ่มชื้นพอดีอย่าให้เปียกหรือแฉะเกินไป เพราะจะทําให้ต้นพริกเหี่ยวตายได้ ในช่วงเก็บเกี่ยวผลผลิตควรลดการให้น้ํา เพื่อพริกจะได้มีคุณภาพที่ดี ผลผลิตงาม และสีของผลก็จะสวยส่วนกรณีดินแห้งเกินไป และไม่อาจให้น้ําได้ก็ควรใช้วัสดุคลุมดิน เช่น ฟางข้าว เปลือกถั่ว เพื่อให้ดินมีความชุ่มชื้น
การใส่ปุ๋ย: พริกเป็นพืชที่มีอายุการเก็บเกี่ยวผลค่อนข้างยาวนาน ปุ๋ยที่ใช้ควรเป็นปุ๋ยที่มีธาตุอาหารครบ เช่น ปุ๋ยสูตร 15-15-15 ควรใส่ในอัตรา 25-50 กิโลกรัมต่อไร่ เพื่อเป็นการช่วยเสริมการเจริญเติบโตของพริก นอกจากนี้ควรฉีดพ่นน้ําหมักทางใบในแปลงพริกบ้าง เพื่อป้องกันแมลง หนอน และเพลี้ย โดยใช้สูตรน้ําหมักป้องกันศัตรูพริก คือ ใช้ใบสะเดา 1 กิโลกรัม ผสมกับน้ํา 1 ลิตรแล้วทําการขยี้ใบสะเดา และแช่ทิ้งไว้ 1 คืน ก็สามารถนําไปใช้ได้ โดยกรองเอาน้ําหมักสะเดาในอัตราการ 1 ช้อนโต๊ะ ผสมน้ํา 20 ลิตร นําไปฉีดพ่นแปลงพริก ในช่วงเวลาเย็น
การเก็บเกี่ยว: พริกจะออกดอกหลังจากย้ายปลูกแล้วประมาณ 60-70 วัน และจะเริ่มเก็บเกี่ยวผลสุกได้เมื่อพริกมีอา
3. เมล็ดพันธุ์พริกจินดาสายพันธุ์ศรีสะเกษ
ต้นพริก เครือ
4. เมล็ดพันธุ์ พริก จินดาแดง 0.5กรัม
***เมล็ดพันธุ์ คุณภาพของแท้จากเจียไต๋*** เมล็ดพันธุ์คุณภาพเจียไต๋ และตราเครื่องบิน เมล็ดพันธุ์ เป็นธุรกิจเริ่มแรกของเจียไต๋ ด้วยประสบการณ์อันยาวนานเกือบศตวรรษ ธุรกิจเมล็ดพันธุ์ของเจียไต๋มีความแข็งแกร่ง และนํานวัตกรรมใหม่ๆ มาใช้ปรับปรุงผลิตภัณฑ์อย่างสม่ําเสมอ ทําให้เราเป็นหนึ่งในบริษัทรายแรกๆ ของไทย ที่คิดค้น วิจัย และพัฒนาเมล็ดพันธุ์ไฮบริดโดยปัจจุบันเรามีเมล็ดพันธุ์คุณภาพกว่า 485 สายพันธุ์ ส่งออกไปยังตลาดมากกว่า 40 ประเทศทั่วโลก โดยมีพืชหลักที่เป็นเรือธง ได้แก่ ฟักทอง แตงโม เมล่อน แตงกวา มะระ พริก ข้าวโพด และมะเขือเทศ เจียไต๋ถือเป็นบริษัทเมล็ดพันธุ์ไทยรายแรกๆที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISTA (International Seed Testing Association) หรือสมาคมทดสอบเมล็ดพันธุ์นานาชาติ ซึ่งเป็นที่ยอมรับในวงการค้าเมล็ดพันธุ์ทั่วโลก 10 ขั้นตอนการเริ่มต้นเพาะเมล็ดพันธุ์ วิธีการเพาะเมล็ดพันธุ์นั้นสามารถทําได้หลายวิธี อาจจะเพาะในถาดก่อนหรือสามารถหว่านเมล็ดลงแปลงเลยก็ได้ การหว่านเมล็ดพันธุ์ลงแปลงเลยนั้น อัตราการงอกอาจจะไม่ดีเท่าที่ควร แม้กระทั้งเมื่อต้นกล้างอกมาแล้วก็อาจจะต้องเจอกับอากาศร้อนจัด ฝนตก หรืออากาศหนาว ทําให้ต้นกล้าที่กําลังจะโตนั้นพาลตายเอาง่าย ๆ สําหรับขั้นตอนการเพาะเมล็ดสําหรับผู้ที่เริ่มต้นนั้น ผมแนะนําให้เริ่มเพาะในถาดก่อน เพื่อให้เมล็ดที่งอกออกมานั้นแข็งแรงพอสมควรก่อนที่เราจะนําลงแปลง นั้นหมายถึงเรามีโอกาสคัดต้นที่อ่อนแอออกและเลือกต้นที่แข็งแรงไว้สําหรับปลูกต่อไปเท่านั้น การดูแลหลังจากนี้สามารถทําได้ง่ายกว่าเพราะผ่านการคัดมาแล้วก่อนที่จะนําไปปลูกกลางแจ้ง และเราสามารถประยุกต์ใช้ได้กับเมล็ดพันธ์อะไรก็ได้ ว่าแล้วเริ่มกันเลย 1.เลือกสถานที่ในการเพาะ ในที่นี้อาจจะเป็นโรงเรือนที่มีแสงแดดส่องถึงในตอนเช้า เลือกสถานที่ให้ไกลจากสัตว์เลี้ยง เช่น เป็ด,ไก่ หรือถ้าจําเป็นจริง ๆ ต้องเลี้ยงสัตว์ไปด้วยก็อาจหาตาข่ายมาล้อมสถานที่เพาะก็ได้ และเป็นที่อากาศถ่ายเทสะดวก 2.เตรียมเมล็ดพันธุ์ ดิน และถาดเพาะ ถาดในที่นี้อาจเป็นหลุม กะละมังเล็ก ถาดปลูก หรือถาดกระดาษใส่ไข่ก็ได้แล้วแต่สะดวก ตรวจสอบด้วยว่าสามารถระบายน้ําได้ดี เมล็ดพันธ์หาซื้อได้ตามร้านเกษตรภัณฑ์ ดูว่าเป็นชนิดที่ต้องแช่น้ําก่อนหรือเพาะได้เลยและใช้เวลาปลูกจนถึงเก็บเกี่ยวนานเท่าใด สุดท้ายดินอาจจะซื้อจากร้านขายต้นไม้หรือจะทําดินสําหรับเพาะเองก็ได้ โดยส่วนผสมคือ ดิน 1 ส่วนแกลบดํา 1 ส่วน ขุยมะพร้าวละเอียด 1 ส่วน คลุกเคล้าให้เข้ากันจากนั้นก็เตรียมดินใส่ถาดให้เรียบร้อย หรือจะเลือกใช้เป็นวัสดุปลูกเพาะกล้าคุณภาพดี อย่างเช่นพีทมอส ที่เป็นเศษซากมอสทับถมกันหลายพันปี แหล่งที่ดีมักถูกนําเข้ามาจากฝั่งยุโรป เช่นเยอรมัน ลิทัวเนีย ออสเตรีย 3.การหยอดเมล็ดพันธุ์ โดยผมจะใช้วิธีเพาะในถาดปลูกแบบรวม ๆ ก่อนที่จะย้ายลงถาดหลุม ใช้วิธีการโรยเมล็ดลงในถาดปลูกโดยไม่ให้กระจุกหรือกระจายตัวมากเกินไป ใช้มือตบเบา ๆ ให้เมล็ดติดดินแล้วใช้ดินกลบบาง ๆ รดน้ําเป็นฝอยพอชุ่มวางไว้ในที่อากาศถ่ายเทสะดวก และควรเขียนป้ายกํากับวันที่เริ่มเพาะเพื่อนับเวลาเก็บเกี่ยว เคล็ดลับ การรดน้ําให้เป็นฝอย เราอาจนําขวดมาเจาะรูด้วยเข็ม จะได้ลักษณะน้ําเป็นฝอย ๆ 4.วางไว้ในที่ร่มมีแสงสว่างส่องถึง รดน้ําเช้าเย็นพอชุ่ม ประมาณ 20-24 ชั่วโมงเมล็ดจะเริ่มงอกบ้างแล้ว บางชนิดอาจใช้เวลา 24-48 ชั่วโมงกว่าจะงอก 5.ปล่อยให้โดนแสงแดดอ่อน ๆ ในตอนเช้าช่วง 06.00-10.00 น ซึ่งแสงในตอนเช้านี้จะเหมาะต่อการเจริญเติบโตของพืช การดูแลเรื่องน้ําก็เป็นสิ่งสําคัญเช่นเดียวกัน โดยตรวจสอบดินให้มีความชื้นสม่ําเสมอแต่ไม่เปียกโชกเกินไป 6.ต้นกล้
5. พริกจินดาแดง เมล็ดพันธุ์เจียไต๋ สินค้าพร้อมส่ง
เมล็ดพันธุ์คุณภาพสูง อัตราการโต 98% ***ชอบแดดจัด ***เก็บเกี่ยวใน 65-70 วัน วิธีการปลูก 1 ใส่วัสดุเพาะลงในกะบะ โรยเมล็ดเป็นแถวห่าง 1 นิ้ว กดลงเบาๆ รดน้ําพอชุ่ม 2 เมื่อมีใบจริง 2-4 ใบ ย้ายปลูกลงในกระถาง ขณะย้ายให้มีวัสดุปลูกติดรากมากที่สุด แล้วรดน้ําให้ชุ่ม 3 ใส่ปุ๋ย 16-16-16 ครึ่งช้อนชาทุกๆ 7-10 วัน ให้ห่างโคนต้นอย่างน้อย 2 นิ้ว แล้วรดน้ําให้ชุ่ม **เมื่อเปิดซองแล้วควรปลูกให้หมด เพื่อคุณภาพ และประสิทธิภาพของสินค้าค่ะ #ดอกไม้ #เจียไต๋ #เมล็ดพันธุ์ #ต้นไม้ #ผัก #เมล็ดพันธุ์ผัก #ภูเขาทอง #ดิน #ดินปลูกต้นไม้ #ปุ๋ย #กระถาง #อุปกรณ์เกษตร Chia Tai(เจียไต๋)
หากคุณกำลังมองหาเมล็ดพริกจินดาแดงพร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ได้หลากหลาย เราขอแนะนำให้รู้จักกับนวัตกรรมเมล็ดพริกจินดาแดงชั้นเลิศจากแบรนด์ผู้ผลิตที่คร่ำวอดอยู่ในวงการ โดยแต่ละชนิดมีทั้งแบบ เมล็ดพริกจินดาแดง ซึ่งวันนี้ทางเราจึงจัดอันดับ แนะนำ เมล็ดพริกจินดาแดง ที่ตอบโจทย์กับตัวคุณมาให้เลือกกันแล้วดังนี้